ปาทริซ เอฟรา แบ็คซ้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมดสิทธิ์ลงสนามช่วยทีม "ผีแดง" ลุยศึกฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย กับอาแจกซ์ คืนวันที่ 16 ก.พ. นี้ เหตุ เซอร์ เอล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือใหญ่สั่งพักหลังเจอเรื่องวุ่นเกี่ยวกับ "แดงเดือด" มาทั้งสัปดาห์
สัปดาห์นี้ "ผีแดง" มีคิวฟาดเกือกกับ อาแจ็กซ์ ในศึกยูโรปา ลีก นัดแรกของรอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึ่งในส่วนของสถานการณ์ทีม "เฟอร์กี" ตัดสินใจสั่งพักเอฟรา แบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศส ที่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องวุ่นๆตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. จากปัญหาบาดหมางเรื่องเหยียดผิวกับ หลุยส์ ซัวเรซ หอกหน้าของลิเวอร์พูล และไม่ยอมจับมือกันในเกมนัดนั้น
กุนซือจอมเก๋าของ "ผีแดง" ชี้ต้องการให้เอฟรา พักผ่อนและไม่อยากให้เจ้าตัวคิดมากกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งมองว่าการให้เอฟราได้หยุดพักน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า โดยกล่าวว่า "พวกเราให้ปาทริซ ได้หยุดพักสักระยะ ที่ผ่านมาเขาต้องเจอกับสถานการณ์ของอารมณ์มาตลอดสัปดาห์ และผมคิดว่าการทำเช่นนี้ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว"
ขณะเดียวกัน เฟอร์กี กล่าวว่าตนยังไม่ได้คุยกับเอฟรา เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่แล้วมากนัก อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวก็ต้องการให้เรื่องราวทั้งหมดยุติลงด้วยดี "เราทุกคนต่างพอใจที่ะวกเราจะได้ยุติเรื่องเหล่านี้เสียที ทั้งสองสโมสรอย่างแมนยูฯ และ ลิเวอร์พูล ต่างมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นคู่ปรับที่ยอดเยี่ยม นั้นแหละคือสิ่งที่พวกเราต้องการให้เป็นต่อไปในอนาคตนับ
เที่ยวเบาเบา
วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ตำรวจคุมเข้ม "เตฟ" คัมแบ็คผู้ดี
คาร์ลอส เตเบซ ดาวยิงเจ้าปัญหาของ แมนเชสเตอร์ ซิตี เดินทางกลับมายังประเทศอังกฤษอีกครั้ง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยคุ้มกันอย่างหนาแน่น และเตรียมเข้าไปเจรจากับ โรเบอร์โต มันชินี ผู้จัดการทีม และเจ้าหน้าที่ "เรือใบสีฟ้า" ที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน
กองหน้าวัย 28 ปี มีปัญหากับต้นสังกัด นับตั้งแต่ขัดขืนคำสั่ง "มันโช" ไม่ลุกวอร์มข้างสนามในเกมยูฟา แชมเปียนส์ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อปีก่อน จนถูกตัดชื่อออกจากทีมหลังจากนั้นพร้อมโดนสโมสรปรับเงินเดือน แถมยังบินหนีกลับบ้านเกิดโดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่หลังปล่อยเรื่องราวให้อึมครึมอยู่ 3 เดือน ล่าสุด วันที่ 14 ก.พ. ตามเวลาเมืองผู้ดี ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา เท้าแตะถึงพื้นสนามบินประจำเมืองแมนเชสเตอร์ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การอารักขาเหนียวแน่น ก่อนเตรียมเดินทางไปที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน เพื่อเข้าไปคุยเรื่องอนาคตของตัวเองกับ มันชินี และเจ้าหน้าที่ประจำทีมคนอื่นๆ
ทั้งนี้ การกลับมาของเตเบซนั้น เกิดขึ้นคล้อยหลังจากที่เจ้าตัวออกมาเปิดใจผ่านสื่อบ้านเกิด ทำนองว่าที่ผ่านมา มันชินี ปฏิบัติกับตนเองเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง จากกรณีความขัดแย้งระหว่างเกมชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ ปีก่อน ซึ่งเวลานี้ มันชินี ก็รอเตเบซ อยู่ที่สนามซ้อม เพื่อเตรียมพิจารณาถึงการเอาตัวดาวยิงเจ้าปัญหารายนี้กลับมาอยู่กับทีมอีกครั้งในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล
กองหน้าวัย 28 ปี มีปัญหากับต้นสังกัด นับตั้งแต่ขัดขืนคำสั่ง "มันโช" ไม่ลุกวอร์มข้างสนามในเกมยูฟา แชมเปียนส์ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อปีก่อน จนถูกตัดชื่อออกจากทีมหลังจากนั้นพร้อมโดนสโมสรปรับเงินเดือน แถมยังบินหนีกลับบ้านเกิดโดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่หลังปล่อยเรื่องราวให้อึมครึมอยู่ 3 เดือน ล่าสุด วันที่ 14 ก.พ. ตามเวลาเมืองผู้ดี ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา เท้าแตะถึงพื้นสนามบินประจำเมืองแมนเชสเตอร์ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การอารักขาเหนียวแน่น ก่อนเตรียมเดินทางไปที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน เพื่อเข้าไปคุยเรื่องอนาคตของตัวเองกับ มันชินี และเจ้าหน้าที่ประจำทีมคนอื่นๆ
ทั้งนี้ การกลับมาของเตเบซนั้น เกิดขึ้นคล้อยหลังจากที่เจ้าตัวออกมาเปิดใจผ่านสื่อบ้านเกิด ทำนองว่าที่ผ่านมา มันชินี ปฏิบัติกับตนเองเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง จากกรณีความขัดแย้งระหว่างเกมชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ ปีก่อน ซึ่งเวลานี้ มันชินี ก็รอเตเบซ อยู่ที่สนามซ้อม เพื่อเตรียมพิจารณาถึงการเอาตัวดาวยิงเจ้าปัญหารายนี้กลับมาอยู่กับทีมอีกครั้งในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล
เฟอร์กี ชี้ผีมีสิทธิ์ชิง UCL
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยลูกทีมของตัวเองสมควรเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2011/12 หากลูกทีมมุ่งมั่นทำผลงานได้ดีตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม พร้อมชี้ความพ่ายแพ่ต่อ บาเซิล ถือเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังอย่างรุนแรง
ถือเป็นฤดูกาลแรกในรอบ 16 ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ "ผีแดง" ทำแฟนๆผิดหวังร่วงไปเล่นถ้วยเล็กอย่าง ยูโรปา ลีก หลังตกรอบแบ่งกลุ่มในยูฟา แชมเปียนส์ลีก เมื่อปีก่อน ซึ่งเกมตัดสินชะตาลูกทีมของ "เฟอร์กี" อยู่ที่ความพ่ายแพ้ต่อบาเซิล 1-2 ส่งผลให้แมนยูฯ มีอันจอดป้ายศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ ไว้เพียงรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
โดย "เฟอร์กี" ชี้แจงว่าลูกทีมของตนน่าจะมีสิทธิ์เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ได้ หากนักเตะทำผลงานได้ดีกว่านี้ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยกล่าวว่า "ถือเป็นความผิดหวังอย่างมาก เพราะผมรู้สึกว่าหากเราทำได้ดีกว่านี้ ทีมก็น่าจะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งผมมองว่า ปัญหาสำคัญอยู่ที่เกมเปิดบ้านเจอกับบาเซิล"
"พวกเราออกนำก่อน 2-0 แต่ก็พลาดโอกาสที่ดีในการทำประตู 4-5 ครั้ง ซึ่งมันทำให้เราสูญเสียความมุ่งมั่น และจบลงด้วยผลเสมอ 3-3 บอกตามตรงว่าเป็นผลการแข่งขันที่เลวร้ายสำหรับเรา ซึ่งเกมต่อมาเราก็ทำได้ไม่ดีนัก แถมยังยิงประตูชัยไม่ได้ และเมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น ทำให้ผมคิดว่า เราไม่สมควรเป็นผู้ชนะในเกมนี้" เฟอร์กี กล่าว
ขณะเดียวกัน บรมกุนซือประจำถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เชื่อมั่นว่า "ผีแดง" ชุดที่ประกอบไปด้วยผู้เล่นดาวรุ่งกว่าค่อนทีม จะมีศักยภาพผู้เล่นเท่ากับ บาร์เซโลนา คู่แค้นเก่าในรอบชิงปี 2011 และเป็นต้นแบบปั้นเยาวชนสู่เวทีระดับโลก "บาร์เซโลนา คือทีมที่ดีทีสุดในยุโรป แม้เวลานี้ รีล มาดริด จะครองจ่าฝูงก็ตาม แต่บาร์ซา นักเตะทุกคนมีทักษะในการทำผลงานในสนามไม่น้อยทีเดียว"
"เมื่อไหร่ก็ตามที่ เมสซี , ชาบี และ อิเนียสตา ลงสนาม จะไม่มีใครหยุดพวกเขาได้แน่ แต่จากนี้ไป เรามีจุดมุ่งหมายที่จะแข่งขันกับบาร์เซโลนา และ รีล มาดริด ซึ่งได้ตัดสินใจที่จะสร้างผู้เล่นเยาวชนขึ้นมาในทีมบ้าง เหมือน เวนย์ รูนีย์ และ นานี บอกได้เลยว่าผมไม่รู้สึกสักนิดว่าทีมเราห่างชั้นกับบาร์ซา และ มาดริด ในเรื่องนี้ ซึ่งเราจะแสดงให้ได้เห็นกันเร็วๆนี้" เฟอร์กี ตบท้าย
ถือเป็นฤดูกาลแรกในรอบ 16 ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ "ผีแดง" ทำแฟนๆผิดหวังร่วงไปเล่นถ้วยเล็กอย่าง ยูโรปา ลีก หลังตกรอบแบ่งกลุ่มในยูฟา แชมเปียนส์ลีก เมื่อปีก่อน ซึ่งเกมตัดสินชะตาลูกทีมของ "เฟอร์กี" อยู่ที่ความพ่ายแพ้ต่อบาเซิล 1-2 ส่งผลให้แมนยูฯ มีอันจอดป้ายศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ ไว้เพียงรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
โดย "เฟอร์กี" ชี้แจงว่าลูกทีมของตนน่าจะมีสิทธิ์เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ได้ หากนักเตะทำผลงานได้ดีกว่านี้ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยกล่าวว่า "ถือเป็นความผิดหวังอย่างมาก เพราะผมรู้สึกว่าหากเราทำได้ดีกว่านี้ ทีมก็น่าจะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งผมมองว่า ปัญหาสำคัญอยู่ที่เกมเปิดบ้านเจอกับบาเซิล"
"พวกเราออกนำก่อน 2-0 แต่ก็พลาดโอกาสที่ดีในการทำประตู 4-5 ครั้ง ซึ่งมันทำให้เราสูญเสียความมุ่งมั่น และจบลงด้วยผลเสมอ 3-3 บอกตามตรงว่าเป็นผลการแข่งขันที่เลวร้ายสำหรับเรา ซึ่งเกมต่อมาเราก็ทำได้ไม่ดีนัก แถมยังยิงประตูชัยไม่ได้ และเมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น ทำให้ผมคิดว่า เราไม่สมควรเป็นผู้ชนะในเกมนี้" เฟอร์กี กล่าว
ขณะเดียวกัน บรมกุนซือประจำถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เชื่อมั่นว่า "ผีแดง" ชุดที่ประกอบไปด้วยผู้เล่นดาวรุ่งกว่าค่อนทีม จะมีศักยภาพผู้เล่นเท่ากับ บาร์เซโลนา คู่แค้นเก่าในรอบชิงปี 2011 และเป็นต้นแบบปั้นเยาวชนสู่เวทีระดับโลก "บาร์เซโลนา คือทีมที่ดีทีสุดในยุโรป แม้เวลานี้ รีล มาดริด จะครองจ่าฝูงก็ตาม แต่บาร์ซา นักเตะทุกคนมีทักษะในการทำผลงานในสนามไม่น้อยทีเดียว"
"เมื่อไหร่ก็ตามที่ เมสซี , ชาบี และ อิเนียสตา ลงสนาม จะไม่มีใครหยุดพวกเขาได้แน่ แต่จากนี้ไป เรามีจุดมุ่งหมายที่จะแข่งขันกับบาร์เซโลนา และ รีล มาดริด ซึ่งได้ตัดสินใจที่จะสร้างผู้เล่นเยาวชนขึ้นมาในทีมบ้าง เหมือน เวนย์ รูนีย์ และ นานี บอกได้เลยว่าผมไม่รู้สึกสักนิดว่าทีมเราห่างชั้นกับบาร์ซา และ มาดริด ในเรื่องนี้ ซึ่งเราจะแสดงให้ได้เห็นกันเร็วๆนี้" เฟอร์กี ตบท้าย
วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)